หมอเจี๊ยบ เล่าประสบการณ์ด่านหน้า วอนเร่งจัดการเรื่องวัคซีน

หมอเจี๊ยบ เล่าประสบการณ์ด่านหน้า วอนเร่งจัดการเรื่องวัคซีน

‘หมอเจี๊ยบ ลลนา’ เล่า ประสบการณ์ด่านหน้า วอนเร่งจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19 ให้ทั่วถึงประชาชนและมีประสิทธิภาพ เพราะแต่ละวินาทีที่ช้าไปคือชีวิต หมอเจี๊ยบเล่าประสบการณ์ด่านหน้า – จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระรอกที่ 3 เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันและยอดของผู้ที่เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐบาลนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่าง mRNA

ล่าสุด (8 ก.ค.) ทางนางงาม-นักแสดงสาว ‘เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์’ หรือ ‘หมอเจี๊ยบ’ 

ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว เล่าประสบการณ์ด่านหน้า โดยระบุว่า หญิง รฐา โพสต์ ภาพประชาชนต่อแถวรอตรวจโควิด ลั่น ประเทศเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง“วันนี้เจี๊ยบขอเล่าประสบการณ์ด่านหน้าให้ฟังกันนะคะ ในฐานะหมอในห้องฉุกเฉิน เจี๊ยบคลุกคลีกับเคสผู้ป่วยโควิดมาตลอด ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ต้องยอมรับว่ามันทั้งแย่และหนักมากกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ เป็นพันเท่า คนไข้โควิดอาการหนักแต่ไม่มีเตียงต้องนอนรอเตียงกองกันอยู่ล้นหน้าห้องฉุกเฉิน แต่อย่าลืมว่าโรงพยาบาลไม่ได้มีเฉพาะเคสโควิดอย่างเดียว

ยังมีทั้งอุบัติเหตุและคนเจ็บป่วยหนักที่อันตรายถึงชีวิตที่ต้องเข้ารับการรักษา ไม่กี่วันมานี้มีคนไข้อาเจียนพุ่งเป็นเลือด หัวใจหยุดเต้น การที่หมอจะกระโดดเข้าไปช่วยชีวิตปั๊มหัวใจทันทีเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่สามารถทำได้ ต้องใส่ชุด PPE ก่อน ยังมีรายละเอียดในขั้นตอนการรักษาอื่นๆ อีกหลายอย่างมาก

คนทำงานก็กดดันด้วยเวลาที่เร่งรีบและด้วยปริมาณเคสบางครั้งผู้ป่วยและญาติไม่เข้าใจคิดว่ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมารักษา แต่ขณะนั้นพวกเราทุกคนกำลังเตรียมความพร้อมป้องกันเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างปลอดภัย ล่าสุดเพื่อนร่วมงานเจี๊ยบน้องพยาบาลเป็นลมในชุด PPE ระหว่างกำลังทำงาน

ห้องแยกโรคป้องกันการแพร่เชื้อ (ห้องความดันลบ) ที่ใช้สำหรับเคสผู้ป่วยโควิดมีจำกัด ไม่พอกับจำนวนผู้ป่วย จนคนไข้โควิดต้องออกมานอนรักษาอยู่ด้านนอก ทำได้เพียงเว้นระยะห่าง (ที่ไม่ห่าง) ระหว่างเตียง ผู้ป่วยใกล้เคียงรวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ต้องเสี่ยงติดเชื้อไปตามกัน เพราะห้องแยกโรคเต็มหมด และเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากค่ะ

เจี๊ยบเจอเคสคนไข้อายุมากกว่าเจี๊ยบแค่ปีเดียว ไม่มีโรคประจำตัวอื่นใด แต่ก็เป็นหนักจนเสียชีวิตลำพังบนเตียง ไม่มีโอกาสได้ร่ำลาใคร ญาติพี่น้องไม่สามารถเข้าพบได้ ลองนึกดูว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดกับครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของตัวเองจะทรมานใจขนาดไหน

เคสโควิดที่ป่วยหนักจนจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจก็เกิดขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ทำงานใส่ท่อช่วยหายใจให้คนไข้โควิดมา ยังไม่มีเคสไหนเลยที่รอด ทุกครั้งที่จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ผู้ป่วยเจี๊ยบรู้สึกเศร้ามาก เพราะตัวหมอเองยังไม่รู้เลยว่าคนไข้จะมีโอกาสได้กลับบ้านไหม ที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นเพียงแค่จับมือและบอกคนไข้ว่าเดี๋ยวหมอจะใส่ท่อช่วยหายใจให้ตอนตื่นมาจะมีท่ออยู่ในปากนะ

มีเคสนึง คนไข้เป็นคนขับรถแท็กซี่ คุณลุงเล่าว่าผู้โดยสารให้ไปส่งที่รพ. ระหว่างทางก็ถามผู้โดยสารว่าไปส่งที่รพ.เป็นอะไร เป็นโควิดหรือเปล่า ผู้โดยสารเลี่ยงไม่ตอบ คนขับก็ไม่กล้าให้ลงจากรถเห็นผู้โดยสารขึ้นมานั่งแล้ว จึงไปส่งให้ถึงที่หมาย หลังซักประวัติเสร็จไม่นานคุณลุงก็อาการหนักจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นอีกเคสที่จากไป เจี๊ยบไหว้พระขออธิษฐานให้คุณลุงสงบสุขอยู่บนสวรรค์นะคะ

สถานการณ์ในตอนนี้หนักมาก บางเคสที่เจออายุไม่เยอะ ไม่มีโรคประจำตัวมาก่อนก็อาจมีโอกาสอาการหนักได้ ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ เจี๊ยบขอเป็นหนึ่งเสียงในฐานะแพทย์และประชาชนคนหนึ่ง ขอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึงให้ประชาชน ทุกคนอย่างเร็วที่สุดเถอะนะคะ เพราะแต่ละวินาทีที่ช้าไปคือชีวิต หมอทุกคนอยากเห็นคนไข้ได้กลับบ้านไปหาคนที่เขารัก”

พร้อมแนบแคปชั่นวอนผู้ที่มีอำนาจเร่งจัดการเรื่องวัคซีน โดยระบุว่า “สู้ๆนะหมอ ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงให้ผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบเรื่องวัคซีนเร่งจัดการให้ทีครับ”

หญิง รฐา โพสต์ ภาพประชาชนต่อแถวรอตรวจโควิด ลั่น ประเทศเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

หญิง รฐา โพสต์ ภาพประชาชนต่อแถวรอตรวจโควิด ลั่น ประเทศเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จะครบ 2 ปีจากวันแรก เราได้เห็นอะไรบ้าง กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้ สืบเนื่องมาจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในวันนี้ (8ก.ค. )พุ่งสูงกว่า 7,058 ราย และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 75 ราย ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุด ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ในประเทศไทย ล่าสุด นักแสดงสาวอย่าง หญิง รฐา ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

โดยเธอได้โพสต์ภาพของประชาชนที่ไปนอนรอตรวจโควิด-19ฟรี ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 7 ก.ค. ผ่านอินสตาแกรม @realyingrhatha อีกทั้งยังเขียนแคปชั่นให้เล็งเห็นถึงปัญหาของสถานการณ์บ้านเมืองในต้องนี้ พร้อมตั้งคำถามว่า เรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไง โดยเธอระบุแคปชั่นว่า

“สำหรับพวกเราที่ขับรถไปตรวจที่ รพ จ่ายค่าตรวจหลักพัน แล้วคิดว่าชีวิตวันนี้มันช่างยุ่งยาก ในขณะที่มีกลุ่มคนที่พยายามอย่างมากเพื่อความอยู่รอด ประเทศไทยวันนี้ชัดเจนเหลือเกินว่า ไม่ได้สุขสบายอย่างที่เราคิด อยากให้ลองมองภาพนี้ แล้วตั้งสติคิดดีๆ ถามตัวเองอีกครั้ง ว่าเรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไง ในขณะที่ประเทศอื่นๆ หรือประเทศเพื่อนบ้านเราเอง มีสิทธิ์ตรวจฟรี ฉีดวัคซีนฟรี มีรถตระเวนตรวจทุกคนรอบเมือง มีชุดให้ตรวจหาเชื้อได้ด้วยตัวเองที่บ้าน จะครบ 2 ปีจากวันแรก เราได้เห็นอะไรบ้าง ยอดติดเชื้อวันนี้เท่าที่ตรวจได้ 7058 แล้ว ที่ยังไม่ได้ตรวจอีกเท่าไหร่ … อยากให้คิดถึงประชาชนบ้างขอร้องเถอะค่ะ…. ?? cr @thestandardth.ig”

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บพนันออนไลน์ ufabet